การซักประวัติทางกายภาพบำบัด

การซักประวัติทางกายภาพบำบัด สำคัญแค่ไหน?

การซักประวัติทางกายภาพบำบัด เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งในการประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาให้ตรงจุด การซักประวัติที่ดีจะช่วยให้นักกายภาพบำบัดเข้าใจปัญหาของผู้ป่วยอย่างถ่องแท้ และสามารถเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมที่สุดได้

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับความสำคัญของการซักประวัติกายภาพบำบัด พร้อมขั้นตอนและตัวอย่างคำถามที่ใช้จริงในคลินิก

การซักประวัติทางกายภาพบำบัดคืออะไร?

การซักประวัติทางกายภาพบำบัด (Physical Therapy History Taking) คือการสอบถามข้อมูลจากผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการ ความเจ็บป่วย พฤติกรรมการใช้ชีวิต การเคลื่อนไหว และประวัติการรักษาที่ผ่านมา โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นรากฐานของการวินิจฉัยและการวางแผนการทำกายภาพบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมต้องซักประวัติผู้ป่วยก่อนทำกายภาพบำบัด?

การซักประวัติมีความสำคัญต่อการรักษาในหลายด้าน ได้แก่:

  • ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ เช่น อาการปวดคออาจมาจากการนั่งทำงานผิดท่า หรืออาจเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกเสื่อม
  • ช่วยวางแผนการรักษาได้ตรงจุด โดยเลือกเทคนิคและอุปกรณ์ที่เหมาะกับสภาพผู้ป่วย
  • ลดความเสี่ยงในการบำบัด เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางชนิดอาจมีข้อห้ามในการใช้เครื่องมือบางประเภท
  • ติดตามผลการรักษาได้แม่นยำ เพราะมีข้อมูลพื้นฐานเปรียบเทียบ

ขั้นตอนการซักประวัติผู้ป่วยทางกายภาพบำบัด

การซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำกายภาพบำบัด เพื่อประเมินสภาวะสุขภาพและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย โดยขั้นตอนหลักๆ มีดังนี้

1. ข้อมูลทั่วไป (General Information)

  • ชื่อ-นามสกุล
  • อายุ เพศ
  • อาชีพ (เพราะบางอาชีพมีความเสี่ยงต่ออาการกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ)
  • ลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน

2. อาการปัจจุบัน (Presenting Complaints)

  • ปวดบริเวณไหน? (ตำแหน่ง)
  • ปวดมากแค่ไหน? (ใช้ระดับคะแนน 0-10)
  • ปวดแบบใด? (ปวดจี๊ด หน่วง ตื้อ หรือแสบร้อน)
  • อาการเริ่มต้นเมื่อไร? เกิดจากอะไร?

3. ประวัติการรักษาและโรคประจำตัว (Past Medical History)

  • เคยรับการรักษาแบบใดมาแล้วบ้าง?
  • มีโรคประจำตัวหรือไม่ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ
  • เคยผ่าตัดหรือได้รับอุบัติเหตุหรือไม่?

4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต (Lifestyle)

  • นั่งทำงานนานแค่ไหนต่อวัน?
  • ออกกำลังกายหรือไม่? อย่างไร?
  • นอนกี่ชั่วโมง? มีอาการปวดตอนกลางคืนหรือไม่?

สรุป

การซักประวัติทางกายภาพบำบัดเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่ได้ผล หากซักประวัติอย่างเป็นระบบและใส่ใจในรายละเอียด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง

Scroll to Top