5 อาการบาดเจ็บจากการวิ่งที่พบบ่อย พร้อมแนวทางดูแล

การวิ่งเป็นกีฬายอดนิยมที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจและกล้ามเนื้อ แต่ในขณะเดียวกัน “อาการบาดเจ็บจากการวิ่ง” ก็สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ทั้งในนักวิ่งมือใหม่และนักวิ่งประจำ หากละเลยสัญญาณเตือน อาการเล็กน้อยอาจพัฒนาไปเป็นอาการเรื้อรังได้

บทความนี้รวบรวม 5 อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุดในนักวิ่ง พร้อม แนวทางดูแลตามหลักกายภาพบำบัด ที่จะช่วยให้คุณกลับมาวิ่งได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น


1. Runner’s Knee (ปวดด้านหน้าหัวเข่า)

อาการที่พบ

  • ปวดรอบสะบ้าหัวเข่า โดยเฉพาะเวลาวิ่ง นั่งงอเข่า หรือขึ้นลงบันได
  • รู้สึกล้า เหมือนเข่าไม่มั่นคง

สาเหตุ

  • กล้ามเนื้อสะโพกอ่อนแรง ทำให้เข่าบิดเข้าด้านใน
  • ท่าวิ่ง เช่น ลงส้นหนักเกินไป
  • รองเท้าที่รองรับแรงกระแทกไม่ดี

แนวทางดูแล

  • เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพก โดยเฉพาะ Gluteus Medius
  • ยืดกล้ามเนื้อด้านหน้าและหลังต้นขา
  • ปรับเทคนิคการวางเท้าระหว่างวิ่งและเลือกรองเท้าที่เหมาะสม

2. Shin Splint (หน้าแข้งอักเสบ)

อาการที่พบ

  • ปวดตามแนวกระดูกหน้าแข้ง โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นวิ่ง
  • กดเจ็บเฉพาะจุดบริเวณหน้าแข้งด้านใน

สาเหตุ

  • การลงน้ำหนักแรงหรือวิ่งลงส้นมากไป
  • เพิ่มระยะวิ่งเร็วเกินไป
  • พื้นวิ่งแข็งเกิน เช่น คอนกรีต

แนวทางดูแล

  • นวดคลายกล้ามเนื้อน่องและหน้าแข้ง
  • เสริมกล้ามเนื้อ Tibialis anterior/posterior
  • ลดความหนักของการซ้อมชั่วคราวและค่อย ๆ เพิ่มใหม่อย่างเป็นขั้นตอน

3. Plantar Fasciitis (พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ)

อาการที่พบ

  • ปวดส้นเท้า โดยเฉพาะก้าวแรกหลังตื่นนอน
  • เจ็บเวลาเดินนานหรือวิ่งระยะไกล

สาเหตุ

  • พังผืดฝ่าเท้าตึง
  • อุ้งเท้าแบนหรืออุ้งเท้าสูง
  • รองเท้าที่ไม่รองรับอุ้งเท้า

แนวทางดูแล

  • ยืดน่องและพังผืดฝ่าเท้า เช่น กดลูกบอลไว้ใต้ฝ่าเท้า
  • ใช้แผ่นรองเท้า (Insole) หากมีภาวะอุ้งเท้าผิดรูป
  • พักจากการวิ่งหนักและเปลี่ยนเป็น Cross-training ชั่วคราว

4. IT Band Syndrome (เจ็บด้านนอกเข่า)

อาการที่พบ

  • ปวดแปล๊บบริเวณด้านนอกเข่า โดยเฉพาะช่วงลงเขา/ลงบันได
  • อาจมีอาการตึงลามขึ้นไปถึงสะโพก

สาเหตุ

  • IT band และกล้ามเนื้อ TFL ตึง
  • กล้ามเนื้อสะโพกอ่อนแรง
  • วิ่งซ้ำเส้นทางเดิมที่มีความเอียง เช่น ขอบถนน

แนวทางดูแล

  • คลายกล้ามเนื้อ IT Band, TFL
  • เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อสะโพกทั้งด้านข้างและด้านหลัง
  • ปรับท่าวิ่งให้ลงเท้าใกล้แนวกลางลำตัวมากขึ้น

5. Achilles Tendonitis (เอ็นร้อยหวายอักเสบ)

อาการที่พบ

  • ปวดเอ็นร้อยหวายตอนเริ่มวิ่งหรือช่วงเช้า
  • กดเจ็บบริเวณเอ็นเฉพาะจุด

สาเหตุ

  • กล้ามเนื้อน่องอ่อนแรง
  • ใส่รองเท้าพื้นบางหรือส้นต่ำเกินไป
  • เพิ่มความเร็วหรือวิ่งขึ้นเนินบ่อย

แนวทางดูแล

  • ฝึก Eccentric calf raise ช่วยฟื้นฟูเอ็นร้อยหวาย
  • ยืดน่องเป็นประจำ
  • เลือกรองเท้าที่ช่วยซัพพอร์ตมากขึ้นระหว่างฟื้นตัว

วิธีป้องกันการบาดเจ็บสำหรับนักวิ่ง

  • อบอุ่นร่างกายอย่างน้อย 10–15 นาที
  • เพิ่มระยะทางหรือ pace ไม่เกิน 10% ต่อสัปดาห์
  • เสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพก น่อง และแกนกลางลำตัว
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้าและพื้นวิ่ง
  • หากมีอาการเจ็บเกิน 2–3 วัน ควรประเมินโดยนักกายภาพบำบัด

สรุป

อาการบาดเจ็บจากการวิ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่สามารถป้องกันและดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากรู้สัญญาณเตือนและเลือกใช้วิธีฟื้นฟูที่ถูกต้อง การประเมินสรีระ การท่าวิ่ง และความสมดุลของกล้ามเนื้อโดยนักกายภาพบำบัด จะช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บซ้ำและทำให้นักวิ่งกลับสู่สนามได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

Scroll to Top