เอ็นหัวไหล่อักเสบ ภาวะที่เกิดจากการใช้งานหัวไหล่อย่างหนัก การเคลื่อนไหวซ้ำๆ หรือการบาดเจ็บโดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้มักทำให้เกิดอาการปวด ตึง หรืออ่อนแรงบริเวณหัวไหล่ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานในชีวิตประจำวัน หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาการอักเสบนี้อาจนำไปสู่ข้อไหล่ติดหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและเอ็นรอบหัวไหล่

เอ็นหัวไหล่ที่อาจเกิดการอักเสบได้บ่อย ได้แก่ Long head of Biceps Brachii tendon, Supraspinatus tendon, Subscapularis tendon
สาเหตุของเอ็นหัวไหล่อักเสบ
- การใช้งานซ้ำๆ: การเคลื่อนไหวหัวไหล่ในลักษณะเดิมซ้ำๆ เช่น การยกของหนัก หรือการตีลูกเทนนิส
- อาการบาดเจ็บเฉียบพลัน: เช่น การล้มกระแทกหรือการบิดหัวไหล่อย่างแรง
- อายุที่เพิ่มขึ้น: เนื้อเยื่อเอ็นมีแนวโน้มที่จะเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น
อาการของเอ็นหัวไหล่อักเสบ

1.ปวดบริเวณหัวไหล่
- รู้สึกปวดลึกๆ ภายในหัวไหล่ โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าหรือด้านข้างของหัวไหล่
- อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อยกแขนเหนือศีรษะ ยกของหนัก หรือหมุนหัวไหล่
2.อาการปวดร้าว
- ความปวดอาจลามไปยังต้นแขน หรือลงไปถึงข้อศอก
- ในบางกรณี อาจมีอาการปวดร้าวขึ้นไปที่คอ
3.จำกัดการเคลื่อนไหวของข้อไหล่
- การเคลื่อนไหวของหัวไหล่ถูกจำกัด เช่น ยกแขน หมุนไหล่ หรือเอื้อมมือไปด้านหลัง
4.อาการอ่อนแรงของหัวไหล่
- รู้สึกกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่อ่อนแรง ทำให้ยกของหรือใช้งานแขนได้ยาก
5.อาการบวมและอักเสบ
- บางครั้งอาจมีอาการบวมแดงและรู้สึกร้อนบริเวณหัวไหล่ หากการอักเสบรุนแรง
การรักษาทางกายภาพบำบัด
- การประคบ: การใช้ความร้อนหรือความเย็นเพื่อลดการอักเสบและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- การนวดบำบัด: ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น Ultrasound, High power laser, Shockwave therapy
- การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟู เช่น
- การเหยียดและหมุนหัวไหล่
- การใช้ยางยืดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- การยกน้ำหนักเบาเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบหัวไหล่
การป้องกันเอ็นหัวไหล่อักเสบ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานหัวไหล่อย่างหนักในระยะเวลานาน
- ยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังการออกกำลังกาย
- ใช้ท่าทางที่เหมาะสมในการยกของหนัก
- หมั่นพักผ่อนและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดของหัวไหล่
สรุป
เอ็นหัวไหล่อักเสบเป็นปัญหาที่สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมาก แต่ด้วยการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการใช้กายภาพบำบัด อาการอักเสบสามารถฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับพฤติกรรมและการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวไหล่ยังช่วยป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคตได้อีกด้วย
FAQ คำถามที่พบบ่อย
1. เอ็นหัวไหล่อักเสบเกิดจากอะไร?
- คำตอบ:
เอ็นหัวไหล่อักเสบมักเกิดจากการใช้งานหัวไหล่ซ้ำๆ เช่น การยกแขนเหนือศีรษะ การทำงานที่ต้องยกของหนัก หรือการเล่นกีฬา อายุมากขึ้นก็เป็นปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากเอ็นเสื่อมลงและเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น
2. เอ็นหัวไหล่อักเสบรักษาให้หายขาดได้ไหม?
- คำตอบ:
เอ็นหัวไหล่อักเสบสามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การพักใช้งาน การประคบ การใช้ยาแก้อักเสบ และการทำกายภาพบำบัด แต่ในกรณีที่มีการอักเสบรุนแรงหรือมีการฉีกขาด อาจต้องพิจารณาการผ่าตัด
3. การออกกำลังกายสามารถช่วยรักษาเอ็นหัวไหล่อักเสบได้หรือไม่?
- คำตอบ:
การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การยืดกล้ามเนื้อและการเสริมความแข็งแรงของหัวไหล่ มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและป้องกันอาการกำเริบ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษานักกายภาพบำบัดก่อนเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกาย
4. จำเป็นต้องพบแพทย์เมื่อไหร่?
- คำตอบ:
หากอาการปวดหัวไหล่ไม่ทุเลาภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรง เช่น ไม่สามารถยกแขนได้ อาการปวดแย่ลงเรื่อย ๆ หรือมีอาการบวมแดงร้อน ควรรีบพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
5. การกายภาพบำบัดช่วยอะไรได้บ้าง?
- คำตอบ:
การกายภาพบำบัดช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อไหล่ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบหัวไหล่ ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดซ้ำในอนาคต