การเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ “การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น” ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือมืออาชีพ เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยให้การวิ่งมีแรงขับที่ดีขึ้น ลดอาการบาดเจ็บ และช่วยให้ควบคุมท่าทางได้อย่างสมดุล บทความนี้จะพาไปรู้จักกลุ่ม กล้ามเนื้อสำคัญที่ควรเสริมสำหรับนักวิ่ง ตามหลักกายภาพบำบัด พร้อมตัวอย่างท่าออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง
ทำไม “การเสริมกล้ามเนื้อ” ถึงสำคัญสำหรับนักวิ่ง
- เพิ่มแรงส่งในทุกก้าว ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น
- ช่วยควบคุมท่าวิ่ง ลดการล้มและอาการล้า
- ป้องกันการบาดเจ็บ เช่น เจ็บเข่า, ITB Syndrome, เจ็บสะโพก, Shin splint
- ปรับสมดุลร่างกาย ลดแรงกระแทกเมื่อเท้าสัมผัสพื้น
กลุ่มกล้ามเนื้อสำคัญที่ควรเสริมสำหรับนักวิ่ง
1) Gluteal Muscles (สะโพก) – ตัวช่วยเพิ่มแรงส่งและป้องกันเจ็บเข่า
กลุ่มกล้ามเนื้อก้น: Gluteus Maximus / Gluteus Medius / Gluteus Minimus
หน้าที่
- เพิ่มแรงส่งขณะเหยียดสะโพก
- ควบคุมการบิดหมุนของเข่า (ป้องกันเข่า “หุบเข้าด้านใน”)
- ลดโอกาสเจ็บ ITB, Runner’s Knee
ตัวอย่างท่าเสริมกล้ามเนื้อ
- Glute Bridge
- Hip Thrust
- Clam shell
- Lateral Band Walk
2) Hamstrings (หลังต้นขา) – เพิ่มพลังการดึงขาไปด้านหลัง
กล้ามเนื้อหลังต้นขาช่วยในการเหยียดสะโพกและงอเข่า
หน้าที่
- เพิ่มความเร็วในการวิ่ง
- ช่วยคุมจังหวะก้าว
- ลดความเสี่ยงบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีก
ท่าแนะนำ
- Romanian Deadlift (RDL)
- Hamstring Curl
- Single-leg Deadlift
3) Quadriceps (หน้าต้นขา) – เพิ่มความมั่นคงของเข่า
นักวิ่งต้องใช้กำลังจากหน้าต้นขามากในการรับแรงกระแทกและดันตัวขึ้น
หน้าที่
- คุมการงอและเหยียดเข่า
- รองรับแรงตอนลงเท้า
- ลดอาการเจ็บหน้าหัวเข่า (Patellofemoral Pain)
ท่าแนะนำ
- Squat
- Step-up
- Split Squat / Lunges
4) Core Muscles (แกนกลางลำตัว) – คุมท่าทาง ลดการแกว่งตัว
กล้ามเนื้อ Core ได้แก่ หน้าท้อง หลังล่าง เอว และกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง
หน้าที่
- คงลำตัวให้นิ่งระหว่างวิ่ง
- ลดแรงกระแทกเข้าสู่หลังและเข่า
- ช่วยให้ก้าววิ่งสม่ำเสมอไม่เสียจังหวะ
ท่าแนะนำ
- Plank
- Side Plank
- Dead Bug
- Bird Dog
5) Calf Muscles (น่อง) – ตัวดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มแรงเด้งตัว
กล้ามเนื้อน่อง ประกอบด้วย Gastrocnemius, Soleus
หน้าที่
- ดูดซับแรงขณะเท้าสัมผัสพื้น
- เพิ่มแรงดีดตัวในก้าวถัดไป
- ป้องกัน Shin splint และ Achilles tendinopathy
ท่าแนะนำ
- Calf Raise
- Soleus Raise (งอเข่าเล็กน้อย)
- Jump Rope (ระดับเบา)
6) Hip Flexors (กล้ามเนื้องอสะโพก) – ช่วยยกเข่าให้ก้าววิ่งดีขึ้น
หากกล้ามเนื้อส่วนนี้อ่อนแรงอาจทำให้ก้าวสั้นและล้าเร็ว
หน้าที่
- ช่วยยกเข่าระหว่างก้าววิ่ง
- เพิ่มประสิทธิภาพการสปรินต์
- ลดอาการดึงรั้งสะโพกและหลังล่าง
ท่าแนะนำ
- Marching with resistance band
- Standing Hip Flexion
- High Knees
เทคนิคเสริมกล้ามเนื้อสำหรับนักวิ่งอย่างปลอดภัย
- เริ่มด้วยน้ำหนักเบา เน้น “รูปแบบท่าที่ถูกต้อง” มากกว่าความหนัก
- ฝึกสัปดาห์ละ 2–3 วัน
- เน้นแบบ Compound movement ที่ใช้หลายส่วนพร้อมกัน
- ควร Warm-up ก่อนออกกำลังกายเสมอ
- หากมีอาการเจ็บ ให้หยุดและปรึกษานักกายภาพบำบัด
สรุป
การเสริมกล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพก หน้าต้นขา หลังต้นขา น่อง และแกนกลางลำตัว ซึ่งช่วยให้แรงส่งดีขึ้น ท่าวิ่งมั่นคงขึ้น และลดความเสี่ยงการบาดเจ็บได้อย่างมาก หากคุณกำลังเริ่มฝึกวิ่งหรือมีอาการเจ็บเรื้อรัง การประเมินโดยนักกายภาพบำบัดจะช่วยวางโปรแกรมเสริมกล้ามเนื้อได้เหมาะสมยิ่งขึ้น






