ปวดตึงต้นขาด้านหลัง (Posterior Thigh Pain and Stiffness)

อาการปวดหรือตึงต้นขาด้านหลัง เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทั้งผู้ที่ออกกำลังกายและผู้ที่นั่งทำงานเป็นเวลานาน อาการดังกล่าวอาจเกิดจากความตึงตัวของกล้ามเนื้อ (Hamstring) การใช้งานที่มากเกินไป รวมถึงความผิดปกติของเส้นประสาท หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต


อาการของการปวดตึงต้นขาด้านหลัง

  • รู้สึกตึงหรือเจ็บกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขา โดยเฉพาะเวลายืดเหยียดหรือออกแรง
  • อาจมีอาการเจ็บร้าวลงน่องหรือสะโพกร่วมด้วย
  • อาการตึงเพิ่มขึ้นเมื่อเดิน วิ่ง หรือเมื่อนั่งเป็นเวลานาน
  • บางรายอาจมีอาการชา อ่อนแรง หรือเจ็บร้าวลงขา หากมีภาวะเส้นประสาทถูกกดทับร่วมด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดตึงต้นขาด้านหลัง

1. การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป

การวิ่ง กระโดด หรือเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อ Hamstring ซ้ำๆ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดระดับเล็กน้อย

2. การนั่งเป็นเวลานาน

การนั่งทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งและตึงตัว

3. ความผิดปกติของเส้นประสาทหรือหมอนรองกระดูก

กรณีที่อาการปวดร้าวลงขา อาจมีสาเหตุมาจากภาวะเส้นประสาทไซอาติกถูกกดทับ หรือหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม

4. ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อและโครงสร้างร่างกาย

เช่น กล้ามเนื้อสะโพกหรือแกนกลางลำตัวอ่อนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อด้านหลังต้นขาทำงานหนักเกินไป


แนวทางการรักษาด้วยกายภาพบำบัด

1. การบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ

  • การประคบเย็นในระยะเริ่มแรกหากมีการบาดเจ็บเฉียบพลัน
  • ใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น Ultrasound, Shockwave, เลเซอร์ลดอักเสบ เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อ

2. การยืดเหยียดและฟื้นฟูความยืดหยุ่น

  • ท่าบริหารยืด Hamstring เพื่อคลายความตึง
  • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกและหลังส่วนล่าง เพื่อกระจายแรงดึงที่ต้นขา

3. การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

  • บริหารกล้ามเนื้อสะโพกและแกนกลางลำตัว (Core strengthening)
  • ฝึกสมดุลการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อลดภาระที่ต้นขาด้านหลัง

4. การปรับพฤติกรรมและท่าทาง

  • หลีกเลี่ยงการนั่งต่อเนื่องเกิน 1 ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอิริยาบถหรือลุกขึ้นยืดเหยียด
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสมและช่วยรองรับแรงกระแทก
  • ปฏิบัติการยืดเหยียดก่อนและหลังออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเมื่อใด

  • อาการปวดตึงไม่ทุเลาภายใน 1–2 สัปดาห์ แม้พักหรือยืดเหยียดแล้ว
  • มีอาการปวดร้าวลงขา ร่วมกับชาหรืออ่อนแรง
  • อาการรุนแรงจนรบกวนการเดิน การนั่ง หรือการทำงานประจำวัน

สรุป

อาการปวดตึงต้นขาด้านหลัง อาจมีสาเหตุได้หลากหลาย ตั้งแต่กล้ามเนื้อตึงจากการใช้งาน ไปจนถึงความผิดปกติของระบบประสาท การเข้ารับการประเมินและรักษาด้วยกายภาพบำบัดช่วยให้ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการ ฟื้นฟูสมรรถภาพ และลดโอกาสการบาดเจ็บซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Scroll to Top