หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated Disc)

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: เข้าใจอาการ และแนวทางรักษาด้วยกายภาพบำบัด

รู้จักกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

หมอนรองกระดูกสันหลังคือแผ่นคล้ายเจลที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลัง ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวได้ดี เมื่อหมอนรองกระดูกเกิดการเคลื่อน โป่ง หรือฉีกขาด จนไปกดทับเส้นประสาท จะเกิดภาวะที่เรียกว่า “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” หรือ Herniated Disc

Reference : https://friscorehab.com/conditions/herniated-disc/

อาการที่ควรระวัง

อาการจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดการทับเส้นประสาท เช่น บริเวณคอหรือเอว โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ปวดหลังส่วนล่าง หรือคอเรื้อรัง
  • ปวดร้าวลงขา หรือแขน ขึ้นอยู่กับจุดที่ถูกกดทับ
  • ชาหรือเสียวแปลบ ตามแนวเส้นประสาท
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง ขยับแขนหรือขาได้ไม่เต็มที่
  • ปวดมากขึ้นเมอนั่งนาน ไอ หรือจาม

หากมีอาการรุนแรง เช่น กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ หรือขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ ควรพบแพทย์โดยด่วน

ระยะความรุนแรงของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ๆ ตามความรุนแรง เพื่อใช้ประเมินแนวทางการรักษาและการทำกายภาพบำบัดได้เหมาะสม ดังนี้:

🔹 ระยะที่ 1: อาการเริ่มต้น (Mild)

ลักษณะอาการ:

  • ปวดเมื่อยเฉพาะจุด เช่น ปวดหลังส่วนล่างหรือคอ
  • ปวดเพิ่มขึ้นเมื่ออยู่ท่าเดิมนาน ๆ เช่น นั่งนานหรือยืนพักนาน
  • อาจมีอาการตึง ชา หรือเสียวแปลบบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ร้าวลงแขนหรือขา

แนวทางดูแล:

  • เริ่มต้นด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น ท่านั่ง/ท่ายกของให้ถูกต้อง
  • เริ่มทำกายภาพบำบัดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและฝึกกล้ามเนื้อพยุงกระดูกสันหลัง
  • สามารถใช้เครื่องมือช่วยบรรเทาอาการ เช่น ประคบร้อน-เย็น หรือ TENS

🔸 ระยะที่ 2: อาการปานกลาง (Moderate)

ลักษณะอาการ:

  • ปวดร้าวลงแขนหรือขา ตามแนวเส้นประสาท (เช่น ปวดร้าวจากหลังลงขา)
  • ชา หรือรู้สึกแปลบ ๆ ที่แขนหรือขา
  • กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงเล็กน้อย เช่น เดินแล้วรู้สึกขาอ่อน หรือยกแขนได้ไม่สุด

แนวทางดูแล:

  • ทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกกำลังกายเฉพาะทาง
  • ใช้เทคนิคลดปวด เช่น Ultrasound, TENS, ยืดกล้ามเนื้อ
  • อาจร่วมกับการใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อที่แพทย์สั่ง
  • หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ยกของหนัก หรือออกแรงผิดท่า

🔴 ระยะที่ 3: อาการรุนแรง (Severe)

ลักษณะอาการ:

  • ปวดร้าวรุนแรงจนรบกวนการนอน หรือทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงชัดเจน เช่น เดินเซ ยกขาไม่ได้ หรือมือไม่มีแรง
  • มีอาการควบคุมขับถ่ายผิดปกติ เช่น กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่
  • สูญเสียการรับความรู้สึกบริเวณก้น (Cauda Equina Syndrome)

แนวทางดูแล:

  • ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่
  • ในบางรายอาจจำเป็นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
  • หากไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูหลังการรักษา

การรักษาทางกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้ผลดี โดยเฉพาะในรายที่อาการยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด เป้าหมายหลักคือการลดอาการปวด ฟื้นฟูการทำงานของร่างกาย และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

แนวทางการรักษาทางกายภาพบำบัด

  1. การลดอาการปวดและอักเสบ
    • ใช้เทคนิคทางกายภาพ เช่น ประคบร้อน-เย็น, คลื่นอัลตราซาวด์, เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (TENS)
    • การยืดกล้ามเนื้อเพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง
  2. การฝึกกล้ามเนื้อ
    • เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง และหลัง เพื่อพยุงกระดูกสันหลังให้มั่นคง
    • เน้นกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (core muscle)
  3. การปรับท่าทางและพฤติกรรม
    • ฝึกท่านั่ง ยืน และเดินที่เหมาะสม
    • แนะนำการจัดที่นั่งหรือที่นอนให้เหมาะกับสรีระ
  4. การออกกำลังกายเฉพาะทาง
    • เช่น ท่า McKenzie หรือท่า Bridging ที่ช่วยลดแรงกดที่หมอนรองกระดูก
    • การออกกำลังกายจะถูกออกแบบเฉพาะบุคคลโดยนักกายภาพบำบัด

การดูแลตัวเองร่วมกับกายภาพบำบัด

  • หลีกเลี่ยงการนั่งนาน หรือยกของหนัก
  • เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด
  • เข้ารับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำ

สรุป

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นภาวะที่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ หากตรวจพบและดูแลอย่างถูกวิธี การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ช่วยลดอาการ ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีอาการปวดหลังหรือปวดร้าวลงแขนขา อย่ารอช้า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัย และเริ่มต้นแนวทางการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ

Scroll to Top